1) setenv work only on c-shell
2) aips tv=local:0 สำหรับเครื่องของตนเอง
3) FITTP ต้องกำหนด outnam 'print:ชื่อไฟล์.fits' ที่ที่เรามีสิทธิ์ในการเข้าถึงไดเร็คทอรรี่นั้นๆ
4) การทำ self-cal เลือกโมเดล เพื่อสร้างภาพ มีสองวิธีได้แก่
4.1 เลือกช่องที่สว่างใน LL หรือ RR มาทำก่อน จากนั้น copy solution ไปยัง stoke ตรงกันข้าม โดยใช้ task sncor เปลี่ยน opcode เอา หลังจากพอใจกับสโตกส์นึงแล้ว สโตกส์ถัดไป บังคับ phase เป็น 0 ด้วย task sncor opcode 'zphs' โดยบังคับเฟสสโตกส์ตรงข้ามเป็นศูนย์ เฉพาะในขั้นสุดท้าย(นั่นคือ apply แค่ครั้งเดียว) self-cal A&P พร้อมทั้งปรับฟลักซ์ opcode 'norm' เพือไม่ให้ฟลักซ์สโตกส์ก่อนหน้านี้มีค่ามากเกินไปนัก
4.2 ถ้าหากว่า stoke LL & RR & I มีตำแหน่งของสปอตเมเซอร์ตรงกัน ให้ใช้ stoke I ทำโมเดล ปรับแค่ phase อย่างเดียวพอ ซึ่งใช้ได้ดีกับ methanol data เท่านั้น
4.3 ทำ self-cal ต้องเลือกแค่ช่องนั้น ๆ เป็นโมเดล โดยสังเกตจาก ichansel (AIPS version 2012 ขึ้นมา แต่ก่อนจะเป็น bchan echan
2) aips tv=local:0 สำหรับเครื่องของตนเอง
3) FITTP ต้องกำหนด outnam 'print:ชื่อไฟล์.fits' ที่ที่เรามีสิทธิ์ในการเข้าถึงไดเร็คทอรรี่นั้นๆ
4) การทำ self-cal เลือกโมเดล เพื่อสร้างภาพ มีสองวิธีได้แก่
4.1 เลือกช่องที่สว่างใน LL หรือ RR มาทำก่อน จากนั้น copy solution ไปยัง stoke ตรงกันข้าม โดยใช้ task sncor เปลี่ยน opcode เอา หลังจากพอใจกับสโตกส์นึงแล้ว สโตกส์ถัดไป บังคับ phase เป็น 0 ด้วย task sncor opcode 'zphs' โดยบังคับเฟสสโตกส์ตรงข้ามเป็นศูนย์ เฉพาะในขั้นสุดท้าย(นั่นคือ apply แค่ครั้งเดียว) self-cal A&P พร้อมทั้งปรับฟลักซ์ opcode 'norm' เพือไม่ให้ฟลักซ์สโตกส์ก่อนหน้านี้มีค่ามากเกินไปนัก
4.2 ถ้าหากว่า stoke LL & RR & I มีตำแหน่งของสปอตเมเซอร์ตรงกัน ให้ใช้ stoke I ทำโมเดล ปรับแค่ phase อย่างเดียวพอ ซึ่งใช้ได้ดีกับ methanol data เท่านั้น
4.3 ทำ self-cal ต้องเลือกแค่ช่องนั้น ๆ เป็นโมเดล โดยสังเกตจาก ichansel (AIPS version 2012 ขึ้นมา แต่ก่อนจะเป็น bchan echan
5) setenv RUNFIL โฟลเดอร์ที่มีสคริปต์ไฟล์.ตัวเลขฐานสิบหก จึงจะใช้รันไฟล์ได้ เวลาจะใช้งานแค่พิมพ์คำว่า run ชื่อสคริปต์